คิดริเริ่มดัดแปลงสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์
การสร้างสรรค์คืออะไร
กรสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถของมนุษย์ในอันที่จะคิดแก้ปัญหาและพัฒนาจนสามารถประดิษฐ์ผลิตผลใหม่ๆการคิดริเริ่มในสิ่งที่แปลกใหม่ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และสังคม ดังนั้นการริเริ่มสร้างสรรค์จึงเป็นการกระทำให้ก้าวหน้าแปลกจากเดิม ดีขึ้น งดงามยิ่งขั้น หรือมีคุณค่ายิ่งขึ้น
การที่มนุษย์รู้จากการสร้างสรรค์ เป็นผลให้โลกได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆเจริญก้าวหน้าจนถึงปัจจุบัน และเชื่อว่าโลกจะเปลี่ยนไปสู่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไปในอนาคตอย่างไม่หยุดยั้งตราบใดที่ยังไม่มีการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
การสร้างสรรค์ที่ไม่สูงเกินเอื้อม
แม้มนุษย์จะมีการสร้างสรรค์ พัฒนาโลกให้เจริญทางวัตถุด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อการติดต่อสื่อสารและพัฒนาความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในสังคมปัจจุบัน แต่ก็ควรมีความพอดีและให้เกิดดุลยภาพระหว่างความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจริญทางด้านวัตถุและจิตใจย่อมจะต้องพัฒนาควบคู่กันตลอดไป
การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆในโลกนี้ เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของมนุษย์นั่นเอง จึงมีการศึกษาและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของคนเราให้เจริญงอกงาม เพื่อเป็นพื้นฐานนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของชาติบ้านเมือง เนื่องจากความคิดสร้างสรรค์สามารถที่จะฝึกฝนทดลองปฏิบัติจนเกิดประสบการณ์ และนำไปสู่การค้นพบแนวทางใหม่ๆ เพื่อการสร้างงานต่อไป
ประเภทของความคิดสร้างสรรค์
ความคิดสร้างสรรค์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ความคิดสร้างสรรค์ทางความคิด(Creative in Beauty)
ความคิดสร้างสรรค์ทางด้านความคิด หมายถึง การคิดแสวงหาแนวทางแก้ปัญหา และพัฒนางานหรือบริหารงานให้ประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้า รู้จากการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปัญหา และแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อนำมาวางแผนงานต่อ
2 . ความคิดสร้างสรรค์ทางความงาม(Creative in Beauty)
ความคิดสร้างสรรค์ทางความงาม หมายถึง การสร้างสรรค์ความงามที่แปลกใหม่ให้งดงามและมีคุณค่ายิ่งขึ้นซึงเป็นความคิดสร้างสรรค์ในทางปฏับัติ เช่น การสร้างสรรค์งานศิลปะ การออกแบบสีสันและลวดลายเสื้อผ้า การตกแต่งบ้าน ห้องเรียน สำนักงาน ให้มีความงามและแปลกใหม่เป็นต้น
3. ความคิดสร้างสรรค์ทางประโยชน์ใช้สอย(Creative in function)
ความคิดสร้างสรรค์ทางประโยชน์ใช้สอย หมายถึง การสร้างสรรค์ดัดแปลงสิ่งต่างๆ ให้มีคุณค่าทางประโยชน์ใช้สอย เช่า งานสิ่งประดิษฐ์ งานศิลปะที่นำวัสดุต่างๆผลิตขั้นให้เกิดประโยชน์ใช้สอย เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์
ความคิดสร้างสรรค์ สามารถปลูกฝังได้ หากเราสามารถพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1 . เป็นผู้ที่หมั่นศึกษาหาความรู้ และประสบการณ์ต่างๆอยู่เสมอ โดยเป็นนักอ่าน นักค้นคว้า เข้าร่วมกิจกรรมการฝึกอบรมและการจัดนิทศการต่างๆ
2 . เป็นผู้ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นโดยไม่ยึดมั่นในความคิดเห็นของตนเองมากเกินไป มีความคิดในทางประนีประนอม ยืดหยุ่นและยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
3. กล้าคิด กล้าทำอย่างมีกระบวนการ รู้จากศึกษาวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปัญหาแนวทางแก้ปัญหาโดยมีทางเลือกอย่างหลักหลายเพื่อนำมาวางแผน ปฏิบัติตามแผน และปรับปรุงพัฒนางานให้ดีขึ้น
4 . เป็นนักแก้ปัญหา โดยไม่หวั่นไหวหรือท้อแท้ต่อ ปัญหา อุปสรรคใดๆ มีความยินดีและพร้อมที่จะเผชิญกับปปัญหาต่างๆและคิดค้นแก้ปัญหาอย่างหลากหลาย
5 . ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แปลกแหวกแนว ไม่ค่อยเหมือนผู้อื่น แต่ผลงานที่ปรากฏย่อมมีคุณค่า และเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นในเวลาต่อมา
กระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะ
การสร้างสรรค์งานศิลปะ มีกระบวนการหรือขั้นตอนตามลำดับโดยเริ่มต้นจากการรับรู้ หรือสัมผัสกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม นำมาสู่การสร้างประสบการณ์หรือการชำนาญ แล้วจึงเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงานศิลปะที่แปลกใหม่ต่อไป ซึ่งมีขั้นตอนในขั้นรายละเอียดดังนี้
1. การรับรู้(Perception)
การรับรู้ หมายถึง การที่มนุษย์ใช้ประสาทสัมผัสด้านต่างๆ รับรู้และชื่นชมในธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมรอบตัว ได้แก่การสัมผัสรับรู้ด้วยประสาทตา ในการมองเห็นความงามของธรรมชาติ เช่น ภาพดอกบัวที่ชูช่ออยู่เหนือน้ำภาพดวงอาทิตย์ยามลับขอบฟ้า เป็นต้น
2. ประสบการณ์(Experience)
ประสบการณ์ หมายถึง การที่มนุษย์ผ่านภาวการณ์รับรู้ ได้เห็น ได้ฟัง และได้ปฏิบัติด้วยตนเองมาแล้วบ่อยครั้งจนสั่งสมเป็นประสบการณ์และความชำนาญ เช่น ศิลปินที่มีใจรักและชื่นชมความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้นานาพรรณ จึงมักจะเข้าไปสัมผัสชื่นชมกับความงามของธรรมชาติเหล่านั้น
3. จินตนาการ(imagination)
จินตนาการ หมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจก่อนที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นศิลปะ โดยมีพื้นฐานมาจากการได้สัมผัสรับรู้ธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม จนเกิดแรงบันดานใจในการสร้างสรรค์ศิลปะ สั่งสมเป็นประสบการณ์และความชำนาญ ขยายผลเป็นการสร้าวสรรค์ งานศิลปะด้วยจินตนาการ
การใช้เทคนิคการเขียนภาพทัศนียภาพจากเส้น
การเขียนทัศนียภาพ(perspective) หมายถึง การเขียนภาพสองมิติบนพื้นระนาบ ให้มองดูเป็นภาพสามมิติดังที่เห็นปรากฎจริงตามธรรมชาติ การเขียนทัศนียภาพเป็นพื้นฐานสำคัญในการเขียนภาพทิวทัศน์ การออกแบบสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่ง และการออกแบบผลิตภัณฑ์
หลักการเขียนเส้นทัศนียภาพ
เส้นที่ใช้เป็นหลักการเขียนทัศนียภาพแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. เส้นระดับสายตาหรือเส้นขอบฟ้า(Horizon tai line)
หมายถึง เส้นแนวนอนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับสายตาของผู้เขียนภาพ หรือเส้นแนวนอนที่แบ่งระหว่างพื้นดินหรือพื้นน้ำ
1.1 จุดรวมสายตา 1 จุด(one point perspective)
เป็นภาพเขียนให้มีจุดรวมสายตาบนเส้นระดับสายตาเพียงจุดเดียว เมื่อกำหนดจุดรวมสายตาแล้วจึงลากเส้นจากวัตถุไปหาจุดรวมสายตา
2. จุดรวมสายตา(vanishing point)
หมายถึง จุดที่ตั้งอยู่บนเส้นระดับสายตา ที่เกิดจากการลากเส้นแนวนำสายตาจากวัตถุไปรวมกันที่จุดใดจุดหนึ่งบนเส้นระดับสายตา จุดรวมสายตาจะช่วยสร้างภาพวัตถุที่จะเขียนให้มีระยะและขนาดที่ต่างกัน
2.2 จุดรวมสายตา 2 จุด(two point per เส้นจากมุมของวัตถุไปหาจุด spective)
เป็นการเขียนภาพให้มีจุดรวมสายตาบนเส้น รวมสายตาทั้ง 2 จุด ระดับสายตา 2 จุด เมื่อกำหนดจุดรวมสายตาแล้วจึงลาก